การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์ อาเซียน รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี หรือ ASEAN U16 Boys’ Championship Indonesia 2024 ได้จบลงไปแล้วเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2567 ที่ประเทศ อินโดนีเซีย โดยทีมชาติไทย สามารถเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศได้อย่างยอดเยี่ยม แม้ว่าจะต้องพบกับความพ่ายแพ้ในช่วงดวลจุดโทษต่อทีมชาติ ออสเตรเลีย ด้วยสกอร์ 7-8 แต่ก็ถือว่าเป็นผลงานที่น่าภาคภูมิใจอย่างยิ่ง ทีมชาติไทย ชุดนี้ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความสามารถที่น่าประทับใจตลอดทัวร์นาเมนต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรอบชิงชนะเลิศที่สามารถต้านทานทีมแกร่งอย่าง ออสเตรเลีย ได้จนถึงช่วงดวลจุดโทษ แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งทั้งทางร่างกายและจิตใจของนักเตะเยาวชนไทย “ปรเมศ ละอองดี” ดาวรุ่งที่สร้างความประทับใจ ท่ามกลางผลงานอันยอดเยี่ยมของ ทีมชาติไทย U17 มีนักเตะคนหนึ่งที่โดดเด่นเป็นพิเศษ นั่นคือ ปรเมศ ละอองดี แนวรุกวัย 15 ปี ที่ได้รับความสนใจจากแฟนบอลและผู้เชี่ยวชาญในวงการฟุตบอลไทยอย่างมาก ปรเมศ ได้แสดงให้เห็นถึงทักษะการเล่นที่เหนือชั้นกว่าเด็กในวัยเดียวกัน ทั้งความเร็ว การควบคุมบอล และวิสัยทัศน์ในการเล่น เขาสามารถสร้างโอกาสในการทำประตูให้กับทีมได้อย่างต่อเนื่อง และยังมีส่วนสำคัญในการพาทีมเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ หากเขาสามารถรักษาฟอร์มการเล่นแบบนี้ได้ ไม่แปลกใจเลยหากในอนาคตอันใกล้ เราจะได้เห็นเขาลงเล่นใน ไทยลีก ความสามารถของปรเมศไม่เพียงแต่จะสร้างความประทับใจให้กับแฟนบอลเท่านั้น แต่ยังได้รับคำชื่นชมจากอดีตนักเตะ ทีมชาติไทย อีกด้วย “โจ้ 5 หลา” ศรายุทธ ชัยคำดี แสดงความชื่นชม ศรายุทธ ชัยคำดี หรือที่รู้จักกันในชื่อ “โจ้ 5 หลา” อดีตกองหน้าทีมชาติไทยที่เคยสร้างชื่อเสียงให้กับวงการฟุตบอลไทย ได้แสดงความประทับใจต่อฝีเท้าของปรเมศผ่านโซเชียลมีเดีย โดยเขาได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “เจ้าหนูหัวฟูนี่คือใคร??? ..ร้ายกาจในวัย 15..” การที่อดีตนักเตะระดับตำนานของทีมชาติไทยแสดงความชื่นชมเช่นนี้ ย่อมเป็นกำลังใจอันยิ่งใหญ่สำหรับนักเตะดาวรุ่งอย่าง ปรเมศ และยังเป็นการยืนยันถึงศักยภาพที่น่าจับตามองของเขาอีกด้วย อนาคตที่สดใสของวงการฟุตบอลไทย การที่นักเตะเยาวชนอย่าง ปรเมศ ละอองดี สามารถแสดงศักยภาพได้อย่างโดดเด่นในระดับนานาชาติ เป็นสัญญาณที่ดีสำหรับอนาคตของวงการฟุตบอลไทย หาก ปรเมศ สามารถรักษาฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมและพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง เขามีโอกาสสูงที่จะก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญของ ทีมชาติไทย ชุดใหญ่ในอนาคต นอกจากนี้ ความสำเร็จของ ทีมชาติไทย U17 ในการเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศของศึกชิงแชมป์อาเซียน ยังแสดงให้เห็นว่าระบบการพัฒนาเยาวชนของไทยกำลังเดินมาถูกทาง