เคน

บทบาทของแฮร์รี่ เคนกับชะตากรรมทีมชาติอังกฤษในศึกยูโร 2024

แฮร์รี่ เคนโชว์ฟอร์มไม่สดุดเข้มในเกมแรกพบเซอร์เบียเมื่อได้รับมอบหมายให้เล่นเป็นกองหน้าตัวหลักแบบจิ้มแจ้มอยู่หน้าปากประตู ซึ่งไม่เหมาะกับสไตล์การเล่นของเขาที่คล่องแคล่วสามารถช่วยทีมได้ทั้งรุกและรับ ปัญหาหลักคือทีมอังกฤษมีผู้เล่นคุณภาพซ้ำกันมากเกินไปในหลายตำแหน่ง ทำให้เซาธ์เกตต้องหาวิธีจัดผู้เล่นลงสนามให้เหมาะสม แต่อาจต้องเสียสละบทบาทของเคนที่จะสามารถช่วยทีมได้อย่างเต็มประสิทธิภาพหากอังกฤษต้องการประสบความสำเร็จ เซาธ์เกตจำเป็นต้องให้โอกาสเคนได้เล่นในบทบาทและพื้นที่ที่เหมาะสมกับความสามารถครบเครื่องของเขา ด้วยการปล่อยให้เขาสร้างสรรค์เกมรุกแบบอิสระมากขึ้น มีการหมุนเวียนร่วมกับกองหน้ารุ่นใหม่ที่มีความเร็วและความคล่องแคล่ว แทนที่จะผูกติดเคนไว้ในบทบาทตัวจบสกอร์อย่างเดียวมิฉะนั้นแล้ว อังกฤษอาจเสียโอกาสในการใช้ประโยชน์จากจุดเด่นของกองหน้าคนสำคัญที่สุดของทีม ส่งผลให้ระบบการเล่นโดยรวมของทีมไม่ลงตัว และอาจต้องจบการแข่งขันด้วยความผิดหวังได้   ทางออกที่ดีที่สุดสำหรับเซาธ์เกตคือการปรับระบบการเล่นให้เหมาะสมกับบทบาททั้งในแนวรุกและแนวรับของแฮร์รี่ เคน ด้วยการให้เขามีพื้นที่และอิสระในการเคลื่อนไหวสร้างสรรค์เกมบุกมากขึ้น พร้อมทั้งมีส่วนร่วมในเกมรับบ้างเมื่อจำเป็นการจัดตำแหน่งให้เคนเล่นเป็นกองหน้าตัวริมเส้นหรือหน้าเป้าแบบเคลื่อนที่ น่าจะเหมาะสมกว่าการปักหลักให้เขาเล่นเป็นจิ้มแจ้มอยู่กลางสนาม เพราะจะทำให้เขามีโอกาสได้หมุนเวียนสลับตำแหน่งกับเพื่อนร่วมทีมมากขึ้น ในขณะเดียวกัน เซาธ์เกตอาจต้องพิจารณาการส่งผู้เล่นที่มีลักษณะรูปร่างเพรียวบางและมีความเร็วสูงลงเล่นเคียงข้างเคน เพื่อสร้างพื้นที่และช่องทางในการทำเกมรุกให้กับทีม ผู้เล่นอย่างเจมี่ วาร์ดี้, อองโตนี่ กอร์ดอน หรือโอลลี่ วัตกินส์น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีการวางผู้เล่นอย่างเหมาะสมจะทำให้เคนสามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในแนวรุกได้อย่างเต็มที่ และนำพาให้ทีมชาติอังกฤษประสบความสำเร็จในศึกยูโร 2024 ได้มากยิ่งขึ้น โดยที่เขาไม่จำเป็นต้องถูกจำกัดบทบาทให้อยู่เพียงการเป็นผู้จบสกอร์เท่านั้น แน่นอนว่าการตัดสินใจขั้นสุดท้ายจะอยู่ที่ดุลยพินิจของเซาธ์เกตในฐานะกุนซือคนสำคัญ แต่เขาก็น่าจะต้องไตร่ตรองให้ดีว่าจะใช้ประโยชน์จากศักยภาพของดาวเตะระดับพรีเมียร์ลีกอย่างแฮร์รี่ เคนได้อย่างเต็มที่หรือไม่ เพื่อให้สามารถคว้าถ้วยรางวัลสูงสุดของฟุตบอลชิงแชมป์แห่งทวีปยุโรปมาครองได้สำเร็จ   นอกจากการปรับบทบาทให้เหมาะสมกับแฮร์รี่ เคนแล้ว เซาธ์เกตยังต้องคำนึงถึงการสร้างความสมดุลให้กับทีมในภาพรวมด้วย การมีผู้เล่นคุณภาพหลายตำแหน่งนั้นถือเป็นจุดแข็ง แต่ก็เป็นความท้าทายในการจัดผู้เล่นลงสนามหนึ่งในทางเลือกที่น่าสนใจคือการให้โอกาสผู้เล่นอย่างฟิล โฟเด้น, เมสัน เมาท์, จูด เบลลิงแฮม หรือเจมส์ แมดดิสันได้ลงสนามเป็นตัวสร้างเกมในแดนกลางมากขึ้น ด้วยการปรับระบบเป็น 4-2-3-1 ที่จะช่วยเปิดพื้นที่ให้ผู้เล่นเหล่านี้สามารถคลายล็อกเกมบุกของทีมได้ในขณะเดียวกัน เคนอาจต้องมีบทบาทเป็นกองหน้าตัวริมเส้นฝั่งขวาหรือซ้าย และได้หมุนเวียนสลับตำแหน่งกับกองหน้าตัวเป้าอย่างแฮร์รี่ คีน หรือไอวานโทนี่ในแดนหน้า เพื่อสร้างความแปลกใหม่และท้าทายแนวรับของคู่แข่งมากขึ้น การมีตัวเลือกมากมายในแนวรุกนับเป็นข้อได้เปรียบ แต่ก็ต้องมีการบริหารจัดการอย่างแยบยลเพื่อดึงศักยภาพสูงสุดจากนักเตะแต่ละคนออกมาได้ การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการเล่นตามสถานการณ์และการหมุนเวียนตัวผู้เล่นอย่างเหมาะสมจะเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญที่จะพาทีมชาติอังกฤษไปสู่ความสำเร็จ สุดท้ายนี้ ความสามารถในการปรับตัวและการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าของเซาธ์เกตจะถูกถ่วงน้ำหนักอย่างมากในทัวร์นาเมนต์ระดับท็อปอย่างยูโร แม้เขาจะมีศูนย์หน้าดาวดังอย่างเคนค้ำจุนจุดสำคัญ แต่ก็ต้องแก้วิกฤตการบริหารจัดการผู้เล่นตำแหน่งอื่นๆ ไปพร้อมกันด้วย หากทำได้สำเร็จ โอกาสในการคว้าแชมป์จะมาถึงอังกฤษก็เป็นได้ เส้นทางสู่ความสำเร็จของทีมชาติอังกฤษจึงไม่ได้อยู่ที่บทบาทของเคนคนเดียว แต่เป็นการผสมผสานระหว่างความสามารถของผู้เล่นทุกคน ทั้งยังรวมถึงวิสัยทัศน์และการวางแผนอย่างรอบคอบของกุนซือใหญ่อย่างเซาธ์เกตด้วย หากสามารถวางบทบาทและจัดการทุกส่วนประกอบได้สำเร็จ ทีมสิงโตคำรามก็มีลุ้นในการคว้าแชมป์ยูโร 2024 ที่เยอรมนีอยู่ไม่น้อย วันนี้ SBOBET BZ จึงสรุปบทวิเคราะห์ที่น่าสนใจของ คาร์ราเกอร์ มาให้ทุกคนได้อ่านกันครับ

มาร์ติน โอเดการ์ด กลับมาแจ้งเกิดได้อีกครั้ง

ช่วงวัยรุ่นถือว่าเป็นช่วงเวลาสำคัญของการเป็นนักฟุตบอลเลยทีเดียว เพราะพรสวรรค์บวกกับวินัยในการฝึกซ้อมจะเปล่งประกายในตัวเองออกมาจนกลายเป็นนักเตะฟุตบอลอาชีพแบบเต็มตัว อีกหนึ่งคนที่น่าชื่นชมมากก็คือ มาร์ติน โอเดการ์ด วอนเดอร์คิดที่ตอนนี้กลับมาเส้นทางที่ควรจะเป็นได้สักที แจ้งเกิด แต่ไม่เกิด มาร์ติน โอเดนการ์ด เคยเป็นข่าวฮือฮาอยู่ช่วงหนึ่งเนื่องจากเค้าเป็นนักเตะวัยรุ่นที่มีพรสวรรค์สูงมาก จนทำให้เจ้าตัวได้รับโอกาสครั้งสำคัญด้วยการเซ็นสัญญาไปเล่นให้กับรีลมาดริด ทีมยักษ์ใหญ่ในสเปน แต่ว่าฝันดีเอาเค้าจริงกลับกลายเป็นฝันร้ายเพราะว่าเจ้าตัวกลับไม่ค่อยได้ลงเล่นเกมสำคัญของรีล มาดริดเลย เจ้าตัวต้องอยู่ได้แต่ในสนามซ้อม , เล่นทีมสำรอง และ ไปเล่นในเกมอุ่นเครื่องเท่านั้นเอง เรียกว่าเป็นความผิดพลาดมหันต์เลย ไม่เพียงเท่านั้น ตอนนั้นผู้จัดการทีมก็แนะนำให้เจ้าตัวลองย้ายออกไปในลักษณะการยืมตัวเพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ และกระดูกฟุตบอลให้แข็งแกร่งขึ้น แต่เจ้าตัวไม่ยอมไป ขอเล่นอยู่ตรงนี้ดีกว่า การเลือกออกไปผจญภัย เมื่อไม่ยอมย้ายออกไปก็ต้องเตรียมรับผลกระทบนั้นไปด้วย นั่นก็คือ ฝีเท้าการเล่นฟุตบอลที่ตกลงอย่างน่าใจหาย ส่วนหนึ่งเพราะไม่ได้สัมผัสกับเกมฟุตบอลระดับสูงทำให้ร่างกาย สัญชาติญาณ ไม่พัฒนาเท่าที่ควร จนสุดท้ายเจ้าตัวขอเลือกไปเล่นกับ เรอัล โซเซียดัด ทีมในลาลีก้า ซึ่งนั่นคือการตัดสินใจที่ถูกต้อง กลับมาแจ้งเกิดได้อีกครั้ง หลังจากได้ออกไปเล่นให้กับ เรอัล โซเซียดัด ต้องบอกว่าเหมือนปล่อยเสือเข้าป่า ปล่อยปลาลงน้ำ เพราะว่ามาร์ติน โอเดการ์ดเหมือนกลับมาแจ้งเกิดในวงการฟุตบอลอีกครั้ง เล่นดีมากทั้งยิง ทั้งเลี้ยง ทั้งจ่ายให้กับเพื่อนร่วมทีมทำประตูอย่างต่อเนื่อง จนตอนนี้เจ้าตัวพาต้นสังกัดขึ้นมาอยู่ในกลุ่มหัวตารางเพื่อทำอันดับไปเล่นฟุตบอลยุโรปแล้ว ล่าสุดก็ทั้งยิง ทั้งจ่ายให้ต้นสังกัดชนะ เออิบาร์ ไปสบาย 4-1 ผลงานแบบนี้เชื่อว่า รีล มาดริด จบฤดูกาลอาจจะดึงตัวกลับไปร่วมทีมอย่างแน่นอน เราขอทำนายล่วงหน้าได้เลย

จอร์จิญโญ่ คือเหตุผลว่าทำไม เชลซีทำผลงานได้ดีกว่าอาร์เซน่อล ทั้งๆที่ทั้งสองทีมพึ่งเปลี่ยนกุนซือคนใหม่เหมือนกัน!

หลังจากที่ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษฤดูกาลใหม่ได้ทำการแข่งขันกันไปได้ซักพักหนึ่งแล้ว ถึงตรงนี้ต้องบอกว่า เมื่อดูจากผลงานโดยรวมในช่วงออกสตาร์ทฤดูกาลใหม่ที่ผ่านมานั้น เหล่าทีมใหญ่ทั้งหลายถือว่าทำผลงานออกมาได้ดีเลยทีเดียว โดยเฉพาะทางด้านทีมสิงห์ไฮโซเชลซีของกุนซือ เมาริซิโอ้ ซารี่ นั้น ถือว่าทำผลงานออกมาได้ค่อนข้างเกินความคาดหมายพอสมควรเลย แต่ทว่าเมื่อมองไปดูผลงานของอาร์เซน่อลนั้น กลับแตกต่างกันพอสมควร ในบทความนี้เลยจะมาเปิดประเด็นเกี่ยวกับความแตกต่างของผลงานทั้งสองทีมกันหน่อย โดยทั้งนี้เมื่อดูจากผลงานในช่วงออกสตาร์ทฤดูกาลใหม่ที่ผ่านมานั้น เห็นได้ค่อนข้างชัดเจนเลยทีเดียว ว่าทีมเชลซีของกุนซือ เมาริซิโอ้ ซารี่ นั้นถือว่าออกสตาร์ทด้วยผลงานที่ผิดความคาดหมายพอสมควร 4 นัดสามารถเก็บชัยชนะได้ทั้ง 4 นัด ในขณะที่ทางด้านทีมอาร์เซน่อลกลับออกสตาร์ทด้วยผลงานที่ไม่ดีเท่าไหร่ ซึ่งความแตกต่างของผลงานของทั้งสองทีม ทำให้หลายๆคนนำมาเปรียบเทียบกัน ว่าทำไมทั้งๆที่เชลซีก็พึ่งเปลี่ยนกุนซือคนใหม่ แต่กลับทำผลงานได้ดีกว่าอาร์เซน่อล บทความนี้เลยจะหยิบเอาประเด็นดังกล่าวนี้มาพูดในมุมความคิดเห็นส่วนตัวกันหน่อย และสำหรับเหตุผลที่ทำให้เชลซีทำผลงานได้ดีกว่าอาร์เซน่อล แม้ว่าจะพึ่งเปลี่ยนกุนซือคนใหม่เหมือนกันนั้น นั่นก็เพราะว่า เชลซีมี จอร์จิญโญ่ มาช่วยทีมนั่นเอง นั่นก็เพราะว่า การที่เชลซีได้ตัว จอร์จิญโญ่ มาช่วยทีมนั้น ทำให้การปรับตัวให้เข้ากับระบบการเล่นแบบใหม่ของกุนซือคนใหม่อย่าง เมาริซิโอ้ ซารี่นั้น สามารถปรับตัวได้เร็วขึ้น เพราะว่า จอร์จิญโญ่ เคยเล่นให้กับซารี่ในช่วงที่อยู่กับทีมนาโปลีมาก่อน ทำให้เขาเข้าใจระบบการเล่นของกุนซือ เมาริซิโอ้ ซารี่เป็นอย่างดี เมื่อเชลซีดึงตัวเข้ามาช่วยทีมในแดนกลางเป็นตัวคอยคุมเกมในแดนกลาง ทำให้เชลซีเล่นเข้ากับระบบการเล่นแบบใหม่ได้เร็วขึ้น ในขณะที่อาร์เซน่อล ไม่ได้ดึงนักเตะเก่าที่เคยเล่นกับกุนซือ เอเมรี่มาเลย ก็เลยทำให้ปรับตัวช้ากว่านั่นเอง เมื่อศึกฟุตบอลลีกดังต่างๆของยุโรป ได้เปิดฤดูกาลใหม่อีกครั้งเป็นที่เรียบร้อยแบบนี้ ก็เป็นธรรมดาที่วงการพนันออนไลน์นั้น ก็เริ่มกลับมาคึกคักกันอีกครั้งไปด้วย ซึ่งในช่วงนี้จะเห็นได้ว่า เว็บแทงบอลออนไลน์ต่างก็พากันออกโปรโมชั่นสำหรับสมาชิกใหม่ออกมาแข่งกันเต็มเลย จนทำให้หลายๆคนตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเลือกเว็บไหนดี ก็เลยอยากจะแนะนำเว็บ sbobet เหตุผลที่แนะนำเว็บนี้ เพราะเว็บ sbobet เป็นเว็บที่มีโปรโมชั่นให้เลือกแบบหลากหลายมาก และยังมีรูปแบบการวางเดิมพันให้เลือกเล่นหลากหลายอีกด้วย และอีกเหตุผลก็คือ sbobet เป็นเว็บใหญ่ในวงการพนันออนไลน์ ซึ่งสามารถไว้ใจเรื่องการจ่ายจริงเมื่อเล่นได้นั่นเอง

“นิคลาส เบนท์เนอร์” ไม่อุทธรณ์โทษทำร้ายร่างกายคนขับแท็กซี่

“นิคลาส เบนท์เนอร์” นักฟุตบอลดาวยิงจากทีมชาติเดนมาร์ก ถูกศาลสั่งจำคุกพร้อมปรับเงินเพราะ ก่อเหตุทะเลาะวิวาทและทำร้ายร่างกายคนขับแท็กซี่หลังตัดสินใจไม่อุทธรณ์ โดยกองหน้าของโรเซนบอร์ก ถูกศาลสั่งจำคุก 50 วันพร้อมปรับเงินข้อหาทำร้ายร่างกายคนขับรถแท็กซี่เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา แข้งวัย 30 ปี อดีตกองหน้าชื่อดัง อาร์เซน่อล ได้ออกไปเที่ยวยามค่ำคืนใน กรุงโคเปนเฮเก้น ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้รับแจ้งว่า นักเตะจอมเก๋า วัย 30 ปี ไปมีเรื่องกับคนขับแท็กซี่ และทำร้ายร่างกายคู่กรณีจนกระดูกกรามหัก ก่อนจะโดนตำรวจตามรวบตัวได้ในเวลาต่อมา แม้เจ้าตัวจะอ้างว่าเขาเพียงแค่ป้องกันตัวเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เบนท์เนอร์ ตัดสินใจไม่อุทธรณ์คดีดังกล่าวแล้ว นั่นหมายความว่าเขาจะรับโทษจำคุก พร้อมกับถูกปรับเงินจำนวน 180 ปอนด์ (ราว 8,100 บาท) รวมทั้งต้องจ่ายเงินค่าทำขวัญให้กับคู่กรณีมากกว่า 1,000 ปอนด์ (ราว 45,000 บาท) ด้วย ทั้งนี้เรื่องราวทั้งหมดเริ่มจากการที่ เบนท์เนอร์ ปฏิเสธจ่ายเงินค่าโดยสารจำนวน 4.80 ปอนด์ (ราว 216 บาท) หลังออกท่องราตรีกับแฟนสาว จากนั้นก็ลงมือบรรเลงเพลงโหด ด้วยการชกที่ใบหน้าและเตะซ้ำคนขับแท็กซี่ โดยมีภาพวิดีโอเป็นหลักฐาน และทำให้กองหน้าเลือดโคนมยอมรับผิดแม้จะอ้างว่าถูกคู่กรณีขู่ขว้างขวดหรือกระป๋องใส่เขาและแฟนสาว เนื่องจากออกจากรถโดยไม่ได้จ่ายเงิน ขณะเดียวกันพนักงานขับแท็กซี่ ก็ถูกปรับเงิน 350 ปอนด์ (ราว 15,750 บาท) โทษฐานใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ และไม่คาดเข็มขัดนิรภัย

เจอร์เมน เดโฟ เผยชื่อสุดยอดนักเตะในใจตั้งแต่อยู่ในวงการค้าแข้ง

เจอร์เมน เดโฟ ดาวยิงมากประสบการณ์ของ บอร์นมัธ กล่าวว่านักเตะที่เขาเคยเผชิญหน้าด้วยและมีควมเก่งกล้าที่สุดคือ “พอล สโคลส์ ” แข้งในตำนานตำแหน่งมิดฟิลด์ของทีม ปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ศูนย์หน้าวัย 36 ปี กล่าวว่า “ในแง่มุมของกีฬาฟุตบอลแล้ว นักเตะที่ยอดเยี่ยมที่สุด เฉียบแหลมที่สุดและเทคนิคครองูกแพรวพราวคงจะหนีไม่พ้น “พอล สโคลส์” โดยตอนที่ผมอยู่เล่นให้กับ ท็อตแน่ม และ พอร์ทสมัธ ผมเองมองว่าในเวลาที่เราเล่นในระบบกองหน้า 2 คน เจอกับ แมนฯ ยูไนเต็ด มันจะเป็นงานยากเสมอ เพราะว่า สโคลส์ จะควบคุมเกมได้อยู่หมัดดีเสมอ” “คุณจะแทบไม่ได้ครองบอลเลย ลูกจ่ายของเขามันมหัศจรรย์ก็น่าเหลือเชื่อ ผมรู้สึกราวกับว่าเขาเป็นคนที่มาจากในอีกระดับหนึ่ง เขานำหน้าทุกคนในสนามไป 2 ก้าว เและขาทำประตูได้ด้วยเช่นกัน เป็นผู้เล่นที่ครบเครื่องที่สุด ยิ่งไปกว่านั้นแนวทางการเล่นของเขามันอัจฉริยะชัด ๆ ” เดโฟ กล่าวเพิ่ม สำหรับ “พอล สโคลส์ ” ปัจจุบันได้ผันตัวมาเป็นนักวิเคราะห์เกมทางโทรทัศน์ ซึ่งที่ผ่านมาก็มักจะให้ความเห็นอย่างชัดเจนตรงไปตรงมาถึงสโมสรเก่าของเขาอยู่เสมอ

แคมป์นักเตะทีมชาติ เวลาชักชวนการย้ายทีม

ช่วงการพักเบรคทีมชาติอย่างนี้ นอกจากจะเป็นเวลาพักของนักเตะที่ไม่ได้ติดทีมชาติแล้ว นักเตะที่ติดทีมชาตินอกจากจะได้โอกาสและความภาคภูมิใจที่ได้รับใช้ชาติแล้ว ส่วนหนึ่งที่เริ่มเห็นมีพฤติกรรมเหล่านี้กันบ้างแล้ว(จริงก็มีมานานแล้วแต่ไม่มีอะไรจับได้) นั่นก็คือ การชักชวนกันย้ายทีมมาเล่นด้วยกันตอนอยู่ทีมชาติ นักเตะมีเวลาร่วมกันแบบไม่มีกั๊ก เวลาที่นักเตะไปเข้าแคมป์ทีมชาตินั้น ส่วนใหญ่นักเตะทั้งหมดจะอยู่ด้วยกันตลอดเวลา(ไม่ได้กลับบ้าน) ซึ่งส่วนใหญ่นักเตะที่ติดทีมชาติเอาเข้าจริงหากไม่ใช่หน้าใหม่หรือขึ้นมาจากการดันเยาวชนจริงๆ ส่วนมากแล้วก็จะเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยหัดเล่นฟุตบอลด้วยกัน หรือติดทีมชาติมาตั้งแต่รุ่นเยาวชนนั่นเอง ทำให้ไม่แปลกที่บางคนอาจจะมีความสนิทกันเป็นอย่างมากกว่าเพื่อนร่วมทีมทั่วไป บอกเล่าแลกเปลี่ยนประสบการณ์ เมื่อเพื่อนซี้เก่าเจอกัน ก็ไม่แปลกที่จะต้องมีการบอกเล่าเรื่องราวแลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่ต่างคนต่างเจอกันมา ทั้งเรื่องส่วนตัว ผลงานในสนาม การใช้ชีวิต และเรื่องอื่นๆอีกเยอะแยะจิปาถะ ตามประสาเพื่อนคุยกันนั่นแหละ ทีนี้เมื่อเล่ากันไปมาแล้วก็คงจะมีบ้างที่จะถามว่า เล่นทีมนั้นเป็นอย่างไร ผู้จัดการทีมเป็นอย่างไร คู่แข่งเป็นอย่างไรกันบ้าง เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลเมื่อคุยกันพอได้สักหน่อย เชื่อว่าต้องมีการชักชวนมาเล่นด้วยกัน ชักชวนเพื่อนร่วมทีมมาเล่นด้วยกัน อย่างที่เป็นข่าวออกไปว่า อองตวน กรีซมันน์ พูดคุยกับป็อกบาว่าอยากมาเล่นด้วยกันที่ แมนยู  ซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดาที่จะเป็นแบบนั้น หากเราเล่นร่วมกับใครแล้วสนุก มีความสุขก็ไม่แปลกที่จะชวนมาเล่นด้วยกันอีกในนามสโมสร ก็หวังว่าลมปากของป็อกบาคราวนี้จะทำให้ อองตวน กรีซมันน์ เคลิ้มจนได้ย้ายมาแมนยูนะ เรื่องเงินไม่ต้องห่วง เดี๋ยวเอ็ดจัดให้ ถ้าได้จริงการที่ป็อกไปเล่นทีมชาติครั้งนี้ถือว่าทำตัวมีประโยชน์มากเลย จริงๆ