เอฟเวอร์ตัน, ลิเวอร์พูล และ อาร์เน่ สลอต ถูกตั้งข้อหา

เอฟเวอร์ตัน, ลิเวอร์พูล และ อาร์เน่ สลอต ถูกตั้งข้อหา หลังเหตุการณ์ปะทะเดือดในเมอร์ซีย์ไซด์ดาร์บี้

การแข่งขัน เมอร์ซีย์ไซด์ดาร์บี้ ระหว่าง เอฟเวอร์ตัน (Everton) และ ลิเวอร์พูล (Liverpool) ที่สนามกูดิสัน พาร์ก เมื่อวันพุธที่ผ่านมา กลายเป็นประเด็นร้อนเมื่อเกิดเหตุการณ์ปะทะเดือดหลังจบเกม ซึ่งนำไปสู่การตั้งข้อหาต่อทั้งสองสโมสร รวมถึง อาร์เน่ สลอต (Arne Slot) กุนซือลิเวอร์พูล และผู้ช่วยของเขา ซิปเก้ ฮูลชอฟ (Sipke Hulshoff) โดยสมาคมฟุตบอลอังกฤษ (FA) ได้ออกแถลงการณ์ยืนยันถึงพฤติกรรมไม่เหมาะสมที่เกิดขึ้น เหตุการณ์ปะทะเดือดหลังจบเกม จุดเริ่มต้นของเหตุการณ์เกิดขึ้นหลังจาก เจมส์ ทาร์คอฟสกี้ (James Tarkowski) กองหลังของเอฟเวอร์ตัน ทำประตูตีเสมอในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 98 ซึ่งได้รับการยืนยันจากระบบ VAR อย่างไรก็ตาม ฝั่งลิเวอร์พูลไม่พอใจและมองว่าประตูนี้ควรเป็นโมฆะ เนื่องจาก เบโต้ (Beto) กองหน้าของเอฟเวอร์ตัน มีจังหวะผลัก อิบราฮิม่า โกนาเต้ (Ibrahima Konate) กองหลังลิเวอร์พูลก่อนทำประตู หลังเสียงนกหวีดสุดท้าย อับดูลาเย่ ดูกูเร่ (Abdoulaye Doucoure) กองกลางของเอฟเวอร์ตัน ฉลองประตูต่อหน้าแฟนบอลลิเวอร์พูล ทำให้ เคอร์ติส โจนส์ (Curtis Jones) เข้ามาประท้วงและทั้งคู่ถูกผู้ตัดสินแจกใบเหลืองที่สอง ส่งผลให้โดนไล่ออกจากสนาม จากนั้น อาร์เน่ สลอต (Arne Slot) และ ซิปเก้ ฮูลชอฟ (Sipke Hulshoff) ได้เดินเข้าไปประท้วงผู้ตัดสิน ไมเคิล โอลิเวอร์ (Michael Oliver) อย่างรุนแรงจนทำให้ทั้งคู่ถูกแจกใบแดง การตั้งข้อหาและบทลงโทษ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สมาคมฟุตบอลอังกฤษ (FA) ได้ตั้งข้อหาต่อทั้งสองสโมสรและบุคคลที่เกี่ยวข้อง โดยมีรายละเอียดดังนี้ เอฟเวอร์ตัน และ ลิเวอร์พูล ถูกตั้งข้อหาว่าล้มเหลวในการควบคุมพฤติกรรมของนักเตะ อาร์เน่ สลอต (Arne Slot) ถูกตั้งข้อหาประพฤติตนไม่เหมาะสม และใช้คำพูดที่ไม่เหมาะสมต่อผู้ตัดสิน ซิปเก้ ฮูลชอฟ (Sipke Hulshoff)

เอฟเวอร์ตัน

เกมสุดท้ายที่ กูดิสัน พาร์ค: บอร์นมัธ เขี่ย เอฟเวอร์ตัน ตกรอบ เอฟเอ คัพ

เกมสุดท้ายที่ กูดิสัน พาร์ค: บอร์นมัธ เขี่ย เอฟเวอร์ตัน ตกรอบ เอฟเอ คัพ เอฟเวอร์ตัน (Everton) พลาดท่าพ่ายแพ้ให้กับ บอร์นมัธ (Bournemouth) ในศึก เอฟเอ คัพ (FA Cup) รอบ 32 ทีมสุดท้าย ซึ่งนับเป็นนัดสุดท้ายของการแข่งขันรายการนี้ที่สนาม กูดิสัน พาร์ค (Goodison Park) สนามเหย้าอันเก่าแก่ที่พวกเขาใช้งานมาตั้งแต่ปี 1892 เนื่องจากทีมมีแผนย้ายไปยังสนามใหม่ที่ แบรมลีย์-มัวร์ ด็อค (Bramley-Moore Dock) ในฤดูกาลหน้า ความผิดพลาดของกัปตันทีม เจมส์ ทาร์คอฟสกี้ (James Tarkowski) เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ทีมเสียสองประตูในครึ่งแรก เริ่มจากการเข้าสกัดผิดจังหวะใส่ แอนทวน เซเมนโย (Antoine Semenyo) ในกรอบเขตโทษ นำไปสู่จุดโทษที่ เซเมนโย รับหน้าที่สังหารเองเข้าไปอย่างเด็ดขาด แม้ว่า จอร์แดน พิคฟอร์ด (Jordan Pickford) จะพุ่งถูกทิศทางและหากใครไม่อยากพลาด sbobet auto สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์นี้ได้เลยครับ ประตูที่สองเกิดขึ้นก่อนหมดครึ่งแรกสองนาที เมื่อ ทาร์คอฟสกี้ เสียบอลและพลาดการสกัด ทำให้ แดเนียล เจบบิสัน (Daniel Jebbison) ฉวยโอกาสยิงระยะกระชั้นเข้าไป ครึ่งหลัง เอฟเวอร์ตัน ภายใต้การคุมทีมของ เดวิด มอยส์ (David Moyes) เล่นได้ดีขึ้นมาก พวกเขายิงโดนเสาถึงสามครั้ง แต่ก็ไม่สามารถเจาะแนวรับของ บอร์นมัธ และผู้รักษาประตู เกปา อาร์ริซาบาลากา (Kepa Arrizabalaga) ได้ นักเตะใหม่ที่เพิ่งเซ็นสัญญาในวันสุดท้ายของตลาดซื้อขาย คาร์ลอส อัลคาราซ (Carlos Alcaraz) ถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรองและได้ยิงฟรีคิกระยะ 25 หลาชนเสา ขณะที่ลูกโหม่งของ เจค โอไบรอัน (Jake O’Brien) และลูกยิงของ

เชลซี พบ เวสต์แฮม

เชลซี พบ เวสต์แฮม

เชลซี พบ เวสต์แฮม เชลซี (Chelsea) มีโอกาสขึ้นท็อปโฟร์หากคว้าชัยชนะได้ เชลซีมีโอกาสเพิ่มความหวังในการจบท็อปโฟร์ของพรีเมียร์ลีก (Premier League) ในวันจันทร์นี้ เมื่อพวกเขาจะพบกับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด (West Ham United) ในเกมสุดท้ายของสัปดาห์ “สิงห์บลูส์” เข้าสู่เกมนี้ในอันดับ 6 ของตารางพรีเมียร์ลีก โดยมีคะแนนตามหลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมอันดับ 4 เพียง 1 คะแนน และมีผลต่างประตูได้เสียที่ดีกว่าทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ขณะที่ เวสต์แฮม อยู่ในอันดับ 15 แต่ถ้าคว้าชัยชนะได้ จะขยับขึ้นไปอยู่ที่อันดับ 13 และแซงหน้า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ได้ konduangdee ประเด็นสำคัญ เชลซี เชลซียังคงมีลุ้นติดท็อปโฟร์ แต่ฟอร์มของพวกเขาดูแผ่วลงหลังจากออกสตาร์ทฤดูกาลได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเก็บชัยชนะได้เพียง 1 จาก 7 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีก ซึ่งเป็นการชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 3-1 เมื่อเดือนที่แล้ว พวกเขายังเพิ่งแพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-3 ในเกมล่าสุด ทำให้การพบกับ เวสต์แฮม เป็นโอกาสสำคัญในการกลับสู่เส้นทางแห่งชัยชนะ โดยเฉพาะเมื่อ เวสต์แฮม เก็บได้เพียง 4 คะแนนจาก 9 แต้มเต็ม นับตั้งแต่ แกรม พอตเตอร์ เข้ามาคุมทีม konduangdee กุนซือ เอ็นโซ่ มาเรสกา จะมีขุมกำลังที่เกือบสมบูรณ์พร้อมสำหรับเกมนี้ รวมถึง โคล พาล์มเมอร์ และ นิโคลัส แจ็คสัน โดย พาล์มเมอร์ ยิงไปแล้ว 14 ประตูในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ ส่วน แจ็คสัน ยิงได้ 9

โคลอี เคลลี

อาร์เซนอล คว้าตัว กองหน้าทีมชาติอังกฤษจาก แมนฯ ซิตี้ ด้วยสัญญายืมตัว

อาร์เซนอล คว้าตัว กองหน้าทีมชาติอังกฤษจาก แมนฯ ซิตี้ ด้วยสัญญายืมตัว กองหน้าทีมชาติ อังกฤษ โคลอี เคลลี (Chloe Kelly) ได้ย้ายจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาร่วมทีม อาร์เซนอล ด้วยสัญญายืมตัวจนจบฤดูกาลนี้ หลังจากเหตุการณ์วุ่นวายในตลาดซื้อขายนักเตะเดือนมกราคม นักเตะวัย 27 ปี ตกเป็นข่าวลือมากมายตลอดทั้งเดือน หลังจากที่เธอต้องการย้ายออกจาก แมนฯ ซิตี้ คู่แข่งร่วมลีกอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ยื่นข้อเสนอในวันสุดท้ายของตลาดซื้อขาย แต่ถูก ซิตี้ ปฏิเสธ ก่อนที่จะมีการตกลงปล่อยยืมให้กับ อาร์เซนอลและทั้งนี้หากใครไม่อยากพลาด สโบบอลเดี่ยว สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์นี้ได้เลยครับ เคลลี (Kelly) จะไม่สามารถลงเล่นได้ในวันอาทิตย์นี้ เมื่อ ซิตี้ เปิดบ้านพบกับ อาร์เซนอล ในศึก วีเมนส์ ซูเปอร์ ลีก (Women’s Super League) เมื่อวันพุธที่ผ่านมา เคลลี (Kelly) ได้โพสต์ใน อินสตาแกรม ว่าเธอ “ต้องการมีความสุขอีกครั้ง” และไม่เห็นอนาคตของเธอกับ ซิตี้ หลังจบฤดูกาลนี้ สัญญาของเธอจะหมดลงในเดือนมิถุนายน แต่ เคลลี (Kelly) ซึ่งได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในลีกเพียงนัดเดียวในฤดูกาลนี้ กังวลเกี่ยวกับตำแหน่งในทีมชาติ อังกฤษ เนื่องจากการแข่งขัน ยูโร 2025 (Euro 2025) จะมีขึ้นในเดือนกรกฎาคม เธอเคยทำประตูชัยให้ทีมชาติ อังกฤษ เอาชนะ เยอรมนี ในศึก ยูโร 2022 (Euro 2022) ซึ่งเป็นแชมป์รายการใหญ่รายการแรกของทีมฟุตบอลหญิง อังกฤษ เบื้องหลังความวุ่นวายของการย้ายทีม ความตั้งใจในการย้ายออกจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ของ เคลลี (Kelly) เป็นที่รับรู้กันดีตลอดเดือนมกราคม แต่สถานการณ์กลับกลายเป็นความขัดแย้งระหว่างนักเตะทีมชาติ อังกฤษ กับสโมสร ในชั่วโมงสุดท้ายก่อนตลาดปิดเวลา 23:00 น. ตามเวลา

คูซานอฟเริ่มต้นยาก แต่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พลิกเกมคว้าชัย

คูซานอฟเริ่มต้นยาก แต่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พลิกเกมคว้าชัย

การประเดิมสนามพรีเมียร์ลีกของ อับดุคอดีร์ คูซานอฟ (Abdukodir Khusanov) กองหลังค่าตัว 33.6 ล้านปอนด์ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (Manchester City) เป็นไปอย่างไม่ราบรื่น ด้วยความผิดพลาดในช่วงต้นเกมที่ทำให้ เชลซี (Chelsea) ได้ประตูเปิด และการได้รับใบเหลืองภายในเวลาเพียงสี่นาทีแรก เหตุการณ์นี้ทำให้ทั้งผู้ชมและนักวิจารณ์รู้สึกเห็นใจเขา นักวิจารณ์ฟุตบอลอย่าง เจมี เรดแนปป์ (Jamie Redknapp) กล่าวว่า “เหมือนหัวของเขาอยู่ในเครื่องปั่นผ้า” ขณะที่ แกรี เนวิลล์ (Gary Neville) ถึงกับกล่าวว่า “ผมอยากจะร้องไห้แทนเขา” แม้จะเริ่มต้นได้ยากลำบาก แต่คูซานอฟยังมีโอกาสพิสูจน์ตัวเองในเกมต่อๆ ไป ซิตี้พลิกสถานการณ์ด้วยสามประตูสำคัญ แม้จะเริ่มต้นเกมด้วยความผิดพลาด แต่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (Manchester City) สามารถกลับมาคว้าชัยชนะเหนือ เชลซี (Chelsea) ได้ด้วยสกอร์ 3-1 โดยได้ประตูจาก โยชโก กวาร์ดิออล (Josko Gvardiol), เออร์ลิง ฮาแลนด์ (Erling Haaland) และ ฟิล โฟเดน (Phil Foden) ชัยชนะครั้งนี้ส่งผลให้ซิตี้ทะยานขึ้นสู่อันดับที่สี่ของตารางพรีเมียร์ลีก และยังคงรักษาสถิติไม่แพ้ใครในลีกติดต่อกันถึงหกนัด ชัยชนะนี้ไม่ได้ช่วยแค่ทีม แต่ยังช่วยเสริมความมั่นใจให้กับนักเตะใหม่อย่างคูซานอฟ เป๊ปเชื่อมั่นในตัวคูซานอฟ เป๊ป กวาร์ดิโอลา (Pep Guardiola) ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดเผยว่า แม้คูซานอฟจะทำพลาดในช่วงต้นเกม แต่เขาเห็นว่านี่คือบทเรียนสำคัญสำหรับกองหลังวัย 20 ปีรายนี้ “เขายังเด็กและเพิ่งมาเล่นในพรีเมียร์ลีกครั้งแรก” เป๊ปกล่าว “ผมไม่ได้เปลี่ยนเขาออกเพราะความผิดพลาด แต่เพราะใบเหลืองที่เขาได้รับ และเราต้องการส่ง จอห์น สโตนส์ (John Stones) ลงเล่นเพื่อเตรียมตัวสำหรับเกมต่อไปในแชมเปียนส์ลีก” เป๊ปยังกล่าวเสริมถึงความท้าทายของคูซานอฟในเรื่องการปรับตัวกับภาษาและระบบทีม แต่เขามั่นใจว่าด้วยเวลาและการฝึกซ้อม คูซานอฟจะพัฒนาและกลายเป็นกำลังสำคัญของทีมในอนาคต อนาคตที่สดใสสำหรับนักเตะใหม่ นอกจากคูซานอฟแล้ว โอมาร์ มาร์มูช (Omar Marmoush) อีกหนึ่งนักเตะใหม่ที่เพิ่งย้ายมา ก็แสดงศักยภาพในเกมนี้เช่นกัน โดยเขาเกือบทำประตูได้และมีส่วนช่วยในการประสานงานกับ

คีลิยัน เอ็มบัปเป้

จากการพลิกล็อคของบาร์ซ่าสู่การพลิกโฉมลาลีก หลังราชันชุดขาวเก็บชัย ขึ้นนำจ่าฝูง

เรอัล มาดริด (Real Madrid) ที่ดูเหมือนจะจมดิ่งหลังพ่ายแพ้ 2-5 ในศึกซูเปอร์โคปา (Supercopa) กลับมาทวงความเป็นจ่าฝูงด้วยการทิ้งห่าง บาร์เซโลน่า (Barcelona) ถึง 7 คะแนน ดานี่ เซบาโญส (Dani Ceballos) ตอบโต้ ดิเอโก้ ซิเมโอเน่ (Diego Simeone) ว่า “เขายังไม่สามารถก้าวข้ามความพ่ายแพ้ในนัดชิงสองครั้งที่แพ้ให้กับ เรอัล มาดริด” คีลิยัน เอ็มบัปเป้ (Kylian Mbappe) ในฟอร์มที่ดีที่สุดนั้นเหนือกว่าทุกคน เรอัล มาดริด กลับมาครองตำแหน่งจ่าฝูงอีกครั้ง แม้ก่อนหน้านี้พวกเขาจะได้ครองตำแหน่งชั่วคราวในช่วงต้นเดือนมกราคม เนื่องจากแข่งมากกว่า แอตเลติโก มาดริด (Atletico Madrid) หนึ่งนัด แต่ทีมตราหมีก็ไม่พลาด ครั้งนี้พวกเขาเป็นจ่าฝูงอย่างสมศักดิ์ศรีและขึ้นอยู่กับตัวเองแล้ว ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นตลอดฤดูกาลนี้ ใครจะคิดว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นหลังจากที่ บาร์เซโลน่า เพิ่งถล่มพวกเขาในศึกซูเปอร์โคปาเมื่อไม่นานมานี้ แต่ชัยชนะอย่างถล่มทลายของทีมอาซูลกรานาก็ไม่ได้ส่งผลอย่างที่คาดหวัง และตารางคะแนนก็แสดงให้เห็นว่า เรอัล มาดริด คือทีมที่น่าเชื่อถือที่สุด พวกเขาเดินทางไปซาอุดีอาระเบีย (Saudi Arabia) ด้วยการนำ 5 คะแนน และตอนนี้นำ บาร์เซโลน่า 7 คะแนน ซึ่งไม่ใช่เรื่องเล็กในช่วงเวลานี้ของฤดูกาล ทีมอาซูลกรานาทำได้เพียงเสมอกับ เกตาเฟ่ (Getafe) ในขณะที่ เรอัล มาดริด สามารถเอาชนะ ลาส พัลมาส (Las Palmas) ได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งช่วยให้พวกเขาได้ความมั่นใจกลับคืนมาหลังจากที่เสียให้กับคู่แข่งตลอดกาล อยู่ด้านหลัง เรอัล มาดริด คือ แอตเลติโก มาดริด ตลอดร้อยปีที่ผ่านมา เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นนับครั้งไม่ถ้วน ทีมตราหมีพลาดท่าให้กับ เลกาเนส (Leganes) และสถิติชนะติดต่อกัน 15 นัดที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของพวกเขาก็ไม่เพียงพอที่จะครองจ่าฝูงในลาลีกา (La Liga) พวกเขาต้องจ่ายราคาแพงสำหรับการเริ่มต้นฤดูกาลที่ไม่แน่นอน   การแข่งขันลาลีกายังคงเปิดกว้าง ศึกมาดริดดาร์บี้จะเป็นตัวตัดสินในเดือนกุมภาพันธ์   เรอัล มาดริด

น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ พบ ลิเวอร์พูล

น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ พบ ลิเวอร์พูล

น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ พบ ลิเวอร์พูล ลิเวอร์พูล (Liverpool) นำเป็นจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกด้วยคะแนนห่าง 6 แต้ม ลิเวอร์พูลยังคงเดินหน้าสู่เป้าหมายคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งแรกตั้งแต่ปี 2020 โดยในวันอังคารนี้ พวกเขาจะเดินทางไปเยือนน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ (Nottingham Forest) ในหนึ่งในแมตช์สำคัญของวันนั้น ทีม “หงส์แดง” มีคะแนนนำห่างจ่าฝูง 6 แต้ม แต่พวกเขาจะต้องเผชิญหน้ากับฟอเรสต์ ซึ่งรั้งอันดับสามและมีกลยุทธ์เน้นเกมรับที่แข็งแกร่ง จนสามารถสร้างเซอร์ไพรส์ในฐานะทีมลุ้นพื้นที่ท็อปโฟร์ได้ หากฟอเรสต์ทำผลงานดีกว่าอาร์เซนอลในนัดลอนดอนดาร์บี้วันพุธนี้ พวกเขาอาจก้าวขึ้นอันดับสองได้ แต่ลิเวอร์พูลก็ไม่ควรถูกประเมินต่ำเกินไป ในแมตช์รีแมตช์จากการพ่ายแพ้ในพรีเมียร์ลีกครั้งเดียวของฤดูกาลนี้ ข่าวกีฬา ประเด็นที่น่าสนใจ ลิเวอร์พูลยังคงยึดตำแหน่งจ่าฝูงได้มั่นคง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขายังมีเกมในมือ แต่ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทีมของอาร์เน สลอต กลับดูเสียความมั่นใจไปเล็กน้อย หลังเสมอแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-2 และแพ้ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ 1-0 ในศึก EFL คัพ โดยทั้งสองเกมลิเวอร์พูลดูเล่นไม่ดุดันเหมือนเดิม คำถามสำคัญคือสิ่งนี้เป็นเพียงความผิดพลาดชั่วคราวหรือไม่ ซึ่งอาจเกิดจากความล้าในช่วงฤดูกาลที่มีโปรแกรมแข่งแน่นหนา อย่างไรก็ตาม สลอตมีโอกาสหมุนเวียนผู้เล่นในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาหลังจากถล่มแอคคริงตัน สแตนลีย์ 4-0 ในศึกเอฟเอคัพ ช่วยให้ทีมได้พักฟื้นก่อนเกมพรีเมียร์ลีกสำคัญในวันอังคารนี้ ข่าวกีฬา สลอตจะมีนักเตะส่วนใหญ่พร้อมลงสนามในแมตช์กลางสัปดาห์นี้ รวมถึงโมฮาเหม็ด ซาลาห์ที่ฟอร์มกำลังร้อนแรง แม้สถานะสัญญาของเขายังไม่ได้รับการแก้ไข แต่ผลงานในสนามยังคงยอดเยี่ยม โดยซาลาห์ทำไปแล้ว 21 ประตูในทุกรายการฤดูกาลนี้ ไม่เพียงแต่ซาลาห์เท่านั้น ลิเวอร์พูลยังมีผู้ทำประตูสำคัญอย่างหลุยส์ ดิอาซ และโคดี้ กัคโป ที่ทำคนละ 12 ประตู และอาจมีบทบาทสำคัญในวันอังคารนี้ ข่าวกีฬา รายชื่อผู้เล่นที่คาดการณ์ของลิเวอร์พูล อลิสซอน, อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โคนาเต, ฟาน ไดจ์ค, โรเบิร์ตสัน, กราเวนเบิร์ช, แม็ค อัลลิสเตอร์, ซาลาห์, โจนส์, กัคโป, ดิอาซ การคาดการณ์ เกมระหว่างสองทีมที่เน้นเกมรับแข็งแกร่งอาจไม่ได้มีประตูมากนัก แต่ถ้าจะมีใครทำลายความสมดุลได้ นั่นคือโมฮาเหม็ด ซาลาห์ คาดว่ากองหน้าชาวอียิปต์จะทำประตูเพิ่มให้กับสถิติที่ยอดเยี่ยมของเขา และช่วยให้ลิเวอร์พูลยืดระยะเวลาการครองจ่าฝูงต่อไป คาดการณ์สกอร์: น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 0, ลิเวอร์พูล

เดวิด มอยส์

“เดวิด มอยส์” เจรจากลับสู่ “เอฟเวอร์ตัน” หลังทีมปลด “ฌอน ไดช์”

“เดวิด มอยส์” เจรจากลับสู่ “เอฟเวอร์ตัน” หลังทีมปลด “ฌอน ไดช์” “เดวิด มอยส์” (David Moyes) กำลังอยู่ในช่วงเจรจากับสโมสร “เอฟเวอร์ตัน” (Everton) เกี่ยวกับการกลับมาคุมทีมที่ “กูดิสัน พาร์ก” (Goodison Park) หลังจากที่ทีมได้ปลด “ฌอน ไดช์” (Sean Dyche) พ้นจากตำแหน่งผู้จัดการทีม แม้ว่าข้อตกลงยังไม่เสร็จสมบูรณ์ และ “มอยส์” ไม่ใช่ตัวเลือกเดียว แต่ทาง บีบีซี สปอร์ต (BBC Sport) ได้รับการยืนยันจากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือว่า กุนซือชาวสกอตแลนด์รายนี้เป็นตัวเต็งที่จะได้รับตำแหน่ง การเจรจาเรื่องสัญญาจะดำเนินต่อในวันศุกร์ อดีตผู้จัดการทีม “เบิร์นลีย์” (Burnley) อย่าง “ไดช์” ถูกปลดออกจากตำแหน่งเมื่อวันพฤหัสบดี ในขณะที่ทีมรั้งอันดับ 16 ของ “พรีเมียร์ลีก” (Premier League) โดยมีแต้มห่างจากโซนตกชั้นเพียง 1 คะแนน พวกเขาชนะเพียง 3 จาก 19 เกมในลีกฤดูกาลนี้และทั้งนี้หากใครไม่อยากพลาด sbobet beer789 สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์นี้ได้เลยครับ “มอยส์” เคยคุมทีม “เอฟเวอร์ตัน” ในช่วงปี 2002 ถึง 2013 ก่อนจะย้ายไปคุมทีม “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” (Manchester United) แต่ถูกปลดหลังจากคุมทีมได้เพียง 10 เดือน เขามีประสบการณ์คุมทีม “เวสต์แฮม” (West Ham) สองช่วง และพาทีมคว้าแชมป์ “ยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ ลีก” (Europa Conference League) ในปี 2023 แต่เขาว่างงานหลังจากแยกทางกับทีมในฤดูกาลที่แล้ว เมื่อเร็วๆ นี้ “มอยส์” กล่าวว่าเขายังไม่พร้อมที่จะเกษียณจากการเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอล แต่ไม่ต้องการทำงานในทีมที่ “ต้องต่อสู้เพื่อหนีการตกชั้น” หลังจากได้รับการแต่งตั้งเป็น OBE ในรายชื่อเกียรติยศปีใหม่สำหรับการอุทิศตนให้กับวงการฟุตบอล เขากล่าวว่า

เชลซีกับคริสตัล พาเลซ

เชลซีกับคริสตัล พาเลซ

คาดการณ์รายชื่อผู้เล่นของเชลซีกับคริสตัล พาเลซ พรีเมียร์ลีก การเสียแต้มในสามเกมหลังสุดทำให้เชลซีหล่นจากอันดับสองมาอยู่อันดับสี่ในพรีเมียร์ลีก เชลซี (Chelsea) จะเดินทางไปเยือนเซลเฮิร์สต์ พาร์ค (Selhurst Park) พบกับคริสตัล พาเลซ (Crystal Palace) โดยมีเป้าหมายเพื่อหยุดสถิติแพ้สองเกมติดในพรีเมียร์ลีก สโบบอลสเต็ป เชลซีเคยมีโอกาสขึ้นนำจ่าฝูงในช่วงคริสต์มาส หากเอาชนะเอฟเวอร์ตันได้เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม แต่ไม่ถึง 15 วันต่อมา พวกเขาหล่นมาอยู่อันดับสี่ในตาราง ตามหลังลิเวอร์พูลซึ่งเป็นจ่าฝูงถึง 10 แต้ม จากฟอร์มที่ตกลงอย่างหนัก โดยทีมของเอนโซ่ มาเรสก้าเก็บได้เพียงหนึ่งแต้มจากเก้าแต้มในเกมพบเอฟเวอร์ตัน, ฟูแล่ม และอิปสวิช ทาวน์ ทั้งที่ก่อนหน้านี้พวกเขาชนะรวดในลีกถึงห้าเกม ด้วยการแข่งขันที่สูสีในพรีเมียร์ลีก ฟอร์มที่ย่ำแย่สามารถส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวง และตอนนี้เชลซีกำลังเสี่ยงที่จะหลุดจากท็อปโฟร์ อย่างไรก็ตาม คริสตัล พาเลซที่อยู่อันดับ 15 น่าจะเป็นโอกาสดีสำหรับเชลซีที่จะเริ่มต้นปี 2025 อย่างสดใส โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเชลซีชนะเกมลีกหกนัดหลังสุดที่เซลเฮิร์สต์ พาร์ค สโบบอลสเต็ป มาเรสก้ายืนยันว่ากัปตันทีม รีซ เจมส์ อาจได้ลงสนามเป็นครั้งแรกในรอบเกือบสองเดือน และโรเมโอ ลาเวียก็ใกล้จะกลับมาเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เบอนัว บาเดียชิลอาจต้องพักจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ และเวสลีย์ โฟฟานา อาจหมดสิทธิ์ลงเล่นตลอดฤดูกาลที่เหลือ คาดการณ์รายชื่อผู้เล่นเชลซีพบคริสตัล พาเลซ (ระบบ 4-2-3-1) ผู้รักษาประตู: โรเบิร์ต ซานเชซ — ซานเชซจะกลับมาประจำการหลังจากฟิลิป เจอร์เกนเซ่นลงเฝ้าเสาในเกมพ่ายอิปสวิช ทาวน์ 0-2 แบ็คขวา: มาโล กุสโต — แม้กุสโตจะฟอร์มตกลงจากฤดูกาลก่อน แต่ยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าแอ็กเซล ดิซาซีที่เล่นนอกตำแหน่ง เซ็นเตอร์แบ็ค: โทซิน อดาราบิโอโย — อดีตนักเตะฟูแล่มจะยังได้ลงตัวจริงต่อเนื่อง เนื่องจากปัญหาอาการบาดเจ็บในตำแหน่งนี้ เซ็นเตอร์แบ็ค: เลวี่ โคลวิลล์ — แม้จะฟอร์มไม่ดีในสามเกมหลังสุด แต่โคลวิลล์ยังคงเป็นกองหลังตัวกลางที่ดีที่สุดของเชลซี แบ็คซ้าย: มาร์ก กูกูเรย่า — แบ็คชาวสเปนยังคงเป็นตัวเลือกที่มั่นคงในฝั่งซ้าย มิดฟิลด์ตัวกลาง: มอยเซส ไกเซโด้ — ไม่มีนักเตะคนใดในพรีเมียร์ลีกที่ทำสถิติแท็คเกิลและตัดบอลสำเร็จรวมกันได้มากกว่าไกเซโด้ในฤดูกาลนี้

เซาท์แฮมป์ตัน

เซาท์แฮมป์ตัน กำลังจะกลายเป็นทีมที่แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก หรือไม่?

เซาท์แฮมป์ตัน กำลังจะกลายเป็นทีมที่แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก หรือไม่? สถานการณ์ดูเลวร้ายสำหรับ เซาท์แฮมป์ตัน (Southampton) ในขณะนี้ ฤดูกาลได้มาถึงช่วงกลางซีซั่นแล้ว และ “นักบุญ” ตกไปอยู่ก้นตารางด้วยการมีเพียง 6 คะแนนเท่านั้น หลังจากพ่ายให้กับ คริสตัล พาเลซ (Crystal Palace) 1-2 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา แม้แต่ ดาร์บี้ เคาน์ตี้ (Derby County) ในฤดูกาล 2007-08 ซึ่งถือเป็นทีมที่แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก ยังมีแต้มมากกว่าในช่วงเวลาเดียวกัน ทำไม เซาท์แฮมป์ตัน ถึงประสบปัญหา? การกลับมาสู่ลีกสูงสุดของ เซาท์แฮมป์ตัน หลังจากตกชั้นไปเล่นใน แชมเปี้ยนชิพ (Championship) หนึ่งฤดูกาล เป็นไปอย่างยากลำบาก รัสเซล มาร์ติน (Russell Martin) ที่ยืนกรานในการเล่นเกมรุกแบบครองบอล สร้างปัญหาให้ทีมจนเขาถูกปลดในต้นเดือนนี้ โดยมีชัยชนะในลีกเพียงนัดเดียวเท่านั้น ทีมเสียไปถึง 39 ประตู มีเพียง วูล์ฟแฮมป์ตัน (Wolves) และ เลสเตอร์ (Leicester) ที่เสียประตูมากกว่า และพวกเขาทำผิดพลาดจนเสียประตูถึง 11 ครั้ง ซึ่งมากที่สุดในลีกใหญ่ทั้ง 5 ของยุโรปและหากใครไม่อยากพลาด สโบบอลเดี่ยว สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์นี้ได้เลยครับ ปัญหายังคงมีต่อเนื่องในแดนหน้า แม้จะอยู่อันดับที่ 16 ในการสร้างโอกาสยิงประตูชัดเจน (37 ครั้ง) แต่ เซาท์แฮมป์ตัน ทำประตูได้น้อยที่สุดในลีกเพียง 12 ประตู โดยมี แคเมรอน อาร์เชอร์ (Cameron Archer), โจ อาริโบ (Joe Aribo), ไทเลอร์ ดิบลิง (Tyler Dibling) และ อดัม อาร์มสตรอง (Adam Armstrong) เป็นดาวซัลโวของทีมด้วยการยิงคนละ 2 ประตูเท่านั้น โอกาสรอดตกชั้นของ เซาท์แฮมป์ตัน