ใครจะมาแทนที่ เอล กุน กับสีเสื้อซิตี้

ความเจ๋งของเป๊ป กวาดิโอลาร์ ในซีซั่นนี้ก็คือ ตอนนี้เค้าพาทีมขึ้นไปอยู่อันดับที่ 1 โดยที่ไม่ต้องใช้กองหน้าอาชีพเลย ใช้แผนแบบไร้กองหน้าบ้าง หรือดันปีกขึ้นไปเล่นบ้างเท่านั้นเอง อย่างไรก็ตามการมีกองหน้าอาชีพไว้มันย่อมดีกว่า คำถามที่สำคัญก็คือ แซร์คิโอ กุน อเกวโร่ กองหน้าตำนานของทีมกำลังจะลาไป แล้วใครจะมาแทนที่เค้าได้ในตำแหน่งนี้ สื่อต่างประเทศได้คาดการณ์เอาไว้หลากหลายคนมีใครกันบ้าง โรเมลู ลูกากู แม้ว่าจะไม่ประสบผลสำเร็จที่ ยูไนเต็ด จนต้องไปอินเตอร์ มิลาน แต่ ลูกากู ก็กำลังจะได้กลับมาพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งแต่คราวนี้เป็นฝั่งซิตี้แทน กองหน้าคนนี้ตอนนี้ในสีเสื้ออินเตอร์ มิลานถือว่าทำผลงานได้ดีเลยทำไป 54 ประตูจากการลงเล่น 78 นัด การมาของเค้าน่าจะทำให้การเล่นระบบหน้าเป้าของทีมมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่คำถามคือเค้าจะเร็วพอกับวิธีการเล่นของเป๊ปไหมเท่านั้นเอง ลิโอเนล เมสซี่ แม้ว่าจะเป็นดีลในฝันที่ล่มไปตอนซัมเมอร์ และ ตลาดหน้าหนาวก็ไม่มีวี่แววอีก แต่ว่าตอนนี้เมสซี่กำลังจะนับถอยหลังหมดสัญญากับ บาร์ซา แล้วหากเจ้าตัวจะย้ายออกจากทีม ซิตี้ คงเป็นไม่กี่ทีมในโลกที่จ่ายได้ในเวลานี้ การโคจรมารวมงานกันอีกครั้งของ เป๊ป และ เมสซี่ ณ เวทีพรีเมียร์ลีค คงเป็นสิ่งที่แฟนบอลทั่วโลกอยากเห็นสักครั้งก่อนเมสซี่จะเลิกเล่นไป เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ในตัวเลือกที่มีทั้งหมด ยังไงเราเชียร์ว่า แมนซิตี้ ควรซื้อคนนี้มากที่สุด ด้วยอายุที่น้อย แต่สิ่งที่เค้าทำได้มันเกินอายุไปไกลมาก คนนี้หากมาอยู่ในมือเป๊ป ก็เตรียมรอวันเจิดจรัสแสงได้เลย ค่าฉีกสัญญา 68 ล้านปอนด์ กับอายุการใช้งานนักเตะที่อย่างน้อย 5 ปี ถือว่าเป็นเรื่องถูกมาก หรือหากจะจ่ายมากกว่านั้นไปจบกันที่ 100 ล้านปอนด์ ก็ถือว่าคุ้มค่าอยู่ดี อยู่ที่ว่าเป๊ปจะเอาไหมเท่านั้นเอง

วัตฟอร์ด ความพ่ายแพ้ที่ต้องยอม

เกมเอฟเอคัพ รอบสามระหว่าง ทรานเมียร์ กับ วัตฟอร์ด ที่ใครดูจากหน้ากระดาษ ดูทรงแล้ววัตฟอร์ดก็น่าจะผ่านไปได้ เพื่อไปเจอกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่พอลงสนามจริงกลับไม่เป็นแบบนั้น วัตฟอร์ดแพ้ในช่วงต่อเวลา 2-1 ซึ่งมองในแง่นี้อาจจะมองว่าวัตฟอร์ดแย่ เสียศักดิ์ศรีต่อทีมที่ต่ำดิวิชั่นกว่า แต่เอาจริงวัตฟอร์ดอาจจะดีใจกับความพ่ายแพ้เกมนี้ก็ได้ ตัวสำรองกว่าครึ่ง ในเกมนี้หากดูรายชื่อนักเตะจะเห็นว่า วัตฟอร์ดเองก็ไม่ได้เน้นเกมนี้เท่าไรนัก เนื่องจากเปลี่ยนตัวจริงจากเกมล่าสุดในลีคเป็นตัวสำรองกว่า 6 ตำแหน่งเลยทีเดียว ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นการวางแผนให้นักเตะหลายคนที่ไม่ค่อยได้ลงนั้น ได้สัมผัสกับเกมการแข่งขันด้วย พอตัวสำรองลงแทนแบบไม่ค่อยได้เล่น คุรภาพของทีมก็ตกลงมา ความเข้าขา รู้ตำแหน่งก็น้อยลงตามลำดับ เพราะงั้นไม่แปลกที่พอลงไปเล่นแล้วทำไมสูสีกับ ทรานเมียร์ได้แบบนั้น เกมลีคสำคัญที่สุด แม้ว่าการตกรอบต่อทีมดิวิชั้นต่ำกว่าแบบนี้จะเป็นเรื่องน่าเจ็บใจ แต่อีกมุมหนึ่งตอนนี้วัตฟอร์ดต้องหันไปมองดูว่าตัวเองต้องโฟกัสกับอะไรก่อน คำตอบก็คือ เกมลีคเป็นสิ่งที่สำคัญสุดในชั่วโมงนี้ อย่าลืมว่าแม้ตอนนี้วัตฟอร์ดจะหนีบ๊วยได้สำเร็จ แต่หากคิดจะอยู่รอดได้ วัตฟอร์ดยังต้องต่อสู้กันอีกเยอะเลยทีเดียว การเก็บตัวนักเตะเอาไว้สู้กับเกมลีค เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว หลีกเลี่ยงอาการบาดเจ็บ หากใครดูไฮไลต์เกมระหว่าง ทรานเมียร์ กับ วัตฟอร์ด จะเห็นสภาพสนามเลยว่า ไม่ค่อยดีเท่าไร บางพื้นที่ไม่ได้เป็นหญ้าสีเขียวเลยด้วยซ้ำ ไม่นับพื้นที่หน้าปากประตูที่เต็มไปด้วย โคลน ดิน ที่เละมาก สภาพสนามแบบนี้ส่งผลต่อการเล่นของนักเตะ อาการบาดเจ็บด้วย หากนักเตะเล่นผิดท่า ผิดจังหวะอาจจะบาดเจ็บได้เลย ไม่แปลกที่วัตฟอร์ดจะไม่ส่งตัวเก่งลงไป เกิดนักเตะลงไปเล่นแม้จะชนะแต่เล่นแล้วเจ็บ ไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย อีกอย่างหากชนะ พวกเค้าก็ต้องมาเตะติดๆกันอีกอย่างน้อย 1 เกม ซึ่งอาจจะส่งผลต่ออาการเหนื่อยล้าของนักเตะ จนส่งผลต่อเกมลีคก็ได้  

รวมดีลยอดแย่ ภายใต้การบริหารของ บาร์โตเมว

โจเซฟ มาเรีย บาร์โตเมว ประธานสโมสรคนปัจจุบันของ บาร์เซโลน่า ถือว่าเป็นคนที่ทำงานได้อย่างดี แต่เรื่องการซื้อขายต้องยอมรับความจริงว่า พวกเค้าดูเหมือนอ่อนด้อยมาก หลายครั้งพวกเค้าเหมือนจะเอาเงินเข้าว่าเพื่อซื้อตัวแต่เป็นการซื้อแบบที่ไม่ได้ประเมินผลทางฟุตบอลเท่าไร ผลก็คือ ซื้อมาแพงจริง เหมือนจะดีจริงแต่กลับล้มเหลวไปเสียหมด เพื่อยืนยันสิ่งที่พูดไปเราขอยกตัวอย่างดีลที่ต้องใช้คำว่า ยอดแย่ จนถึงล้มเหลว แต่ราคาแพงเวอร์มากมาให้เห็นกันสัก 3 ตัวอย่าง โธมัส แฟร์มาเลน ในช่วงที่ คาร์เลส ปูโยล แขวนสตั๊ดไป บาร์ซาก็ประสบปัญหาการตามหากองหลังที่ไว้ใจได้มาตลอด ยังดีที่มี ปิเก้ เป็นตัวหลักของกองหลังคอยค้ำอยู่ หลายดีลที่เหมือนดีแต่พอลงเล่นจริงกลับล้มเหลว ดีลแฟร์มาเลนก็เช่นกัน ซื้อมาจากอาร์เซนอลในปี 2014 ด้วยราคา 18 ล้านยูโร เชื่อว่าตอนจะมาหลายคนตั้งความหวังเอาไว้ เนื่องจากฟอร์มของเค้าตอนอยู่อาร์เซนอลถือว่าดีเลยแต่พอมาเล่นจริงกลับเจ็บบ่อยเสียจนหาฟอร์มที่แท้จริงไม่เจอ สุดท้ายก็ต้องปล่อยออกจากทีมไป มัลคอม เชื่อว่าคนนี้ ถ้าไม่ใช่แฟนบอลที่ติดตามบอลสเปน อาจจะเกาหัวว่า ใครหว่า คนนี้ซื้อมาในราคาสูงถึง 41 ล้านยูโร ในช่วงซัมเมอร์ปี 2018 จากบอร์กโดซ์ ตอนซื้อมีประเด็นนิดหนึ่งว่าเจ้าตัวตอนแรกจะไปโรม่าแต่ดริฟต์หักมาที่บาร์ซาแทน ปรากฏว่าล้มเหลวเล่นไม่ได้เหมือนฟอร์มที่ตั้งไว้ จนเสียเงินไปเปล่าๆ อาร์ด้า ตูราน ตำแหน่ง มิดฟิลด์ เป็นตำแหน่งที่ บาร์ซา ซื้อมาใช้เปลืองสุดเพราะว่าเค้าต้องการหามิดฟิลด์ที่เล่นได้แบบ ชาบี้ และ อินเนียสต้า ยุครุ่งเรือง และผสานกับเมสซี่ได้ คำถามก็คือคนแบบนั้นมันไม่ได้เกิดขึ้นมาบ่อยหรอก ครั้งนี้ล้มเหลวอีก ซื้อมาจาก แอต.มาดริด ด้วยราคา 34 ล้านยูโร เหมือนไปเททิ้ง ฟอร์มไม่ดีเอาเสียเลย สุดท้ายก็ปล่อยไป อิสตันบูล ในปี 2018 น่าเสียดาย

การยืมตัวโอเดียน อิกาโลมา เป็นเครื่องยืนยันได้ว่าปิศาจแดงไม่ได้วางแผนมาดีนัก

อดีตกัปตันทีมปิศาจแดง แกรี่ เนวิลล์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เชื่อว่าการที่สโมสรตัดสินใจยืมตัวโอเดียน อิกาโลมานั้น เป็นเครื่องยืนยันถึงการตัดสินใจที่ไม่ได้วางแผนการแลกเปลี่ยนมาดีนัก นักเตะหนุ่มวัย 30 ปี อดีตกองหน้าสโมสรวัตฟอร์ด ได้ร่วมค้าแข้งกับสโมสรในจีนมาสามปี กำลังจะมาเล่นในตำแหน่งกองหน้าแทนมาร์คัส แรชฟอร์ดที่บาดเจ็บ แต่เนวิลล์กับตั้งข้อสงสัยว่าเหตุใดสโมสรเก่าของเขาถึงไม่เลือกสัญญาระยะยาวแทนหลังการจากไปของโรเมลู ลูกากูและอเล็กซิส ซานเชซ “พวกเขาแค่ต้องการอุดรูว่าง เพราะแรชฟอร์ดจะต้องพักฟื้นไปอีกประมาณสองเดือน ความจริงพวกเขาก็รู้อยู่แล้วมาตลอดเกือบเก้าเดือนนี้ว่าโรเมลู ลูกากูจะไม่อยู่ต่อ พวกเขาควรจะหาตำแหน่งกองหน้าที่จะอยู่กับสโมสรไปนาน ๆ มากกว่าการสุ่มเลือกใครสักคนในวันสุดท้ายของตลาด ผมไม่ได้ว่าอิกาโลนะ เขาอาจจะเล่นได้ดี และเข้ากับทีมได้ หรือแม้กระทั่งทำประตูสร้างแต้มให้กับทีม แต่ความเป็นจริงแล้ว สโมสรก็รู้ดีว่าซานเชซและลูกาโกจะไป พวกเขารู้ล่วงหน้าหลายต่อหลายเดือน ซึ่งนี่ก็เป็นสิ่งที่ยืนยันได้ดีว่าสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดมีปัญหาในการวางแผนซื้อ ขาย แลกเปลี่ยนนักเตะอย่างชาญฉลาด “ดูการเล่นของลิเวอร์พูล แมนฯ ซิตี้ และท็อตแน่มทำ แล้วเปรียบกับสิ่งที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดกำลังทำสิ ถ้าคุณวางแผนหาผู้เล่นผิด คุณจะจบด้วยการชดเชยอย่างแสนสาหัส” เนวิลล์พูดถึงสไตล์การเล่นของปิศาจแดงในช่วงที่ผ่านมา “สไตล์การเล่นตอนนี้ก็โอเค ถ้าคุณมีเมสซี่ ซัวเรส และเนมาร์เป็นกองหน้านะ คุณสามารถเล่นได้แบบที่แมนฯ ยูเจอกับวูลฟ์เมื่อนัดที่ผ่านมา คอยคุมเกมและรอให้จังหวะมาถึง ก่อนจะส่งกองหน้าสามคนไป แต่ตอนนี้แมนฯ ยู ไม่ได้มีกองหน้าที่ดีพอที่จะทำให้ปาฎิหาริย์แบบนั้นเกิดขึ้นหรอกนะ” “ผมไม่รู้ว่าใครคือคนหาเด็กมาร่วมทีมในช่วงเจ็ดแปดปีที่ผ่านมา แต่ไม่ว่าใครก็ตาม ก่อนจะเลือกนักเตะ ควรดูด้วยว่าเขาเหมาะกับเกมไหม” การยืมตัวผู้เล่นมีส่วนสำคัญที่ทำให้ทีมแข็งแกร่งขึ้นได้ แฟนบอลที่ลุ้นเอาใจช่วยก็มาลุ้นกันต่อที่เว็บ sbobetsc.com เว็บแทงบอลออนไลน์ที่มีทั้งผลบอล ทางเข้า sbobet รวมทั้งเกมสนุกๆอีกมากมาย ใครอยากสนุกลองมาเข้าร่วมกับเรา สมัครสมาชิกวันนี้รับโบนัสพิเศษทันที  

ทำไมเชลซี ถึงต้องการกองหน้าตัวใหม่

หลังจากเชลซีได้รับการอุทธรณ์เรื่องการซื้อขายนักเตะ ทำให้หน้าหนาวนี้ เชลซีสามารถลงตลาดซื้อขายนักเตะได้เลย โดยตำแหน่งที่เชลซีต้องการมากที่สุดก็คือกองหน้านั่นเอง ทำไมเชลซีถึงต้องการกองหน้าตัวใหม่ เรามาวิเคราะห์หาสาเหตุกันทีละข้อกันเลย แทมมี่ คนเดียวไม่น่าไหว ต้องยอมรับว่าสถานการณ์สร้างวีรบุรุษจริงๆ เชลซีที่ไม่สามารถซื้อกองหน้ามาเพิ่มได้ในตลาดหน้าร้อน แต่พวกเค้าก็ได้ให้กำเนิดกองหน้าเด็กปั้นของพวกเค้าเองที่ชื่อว่า แทมมี่ กองหน้าคนนี้ฟอร์มร้อนแรงจริงทั้งยิง ทั้งวิ่งทำทาง ทั้งจ่าย เค้าทำได้หมด แต่การเล่นในช่วงครึ่งฤดูกาลหลังที่เหลือ จำนวนเกมที่จะเตะถี่มากขึ้นเรื่อยๆหากเข้าถึงรอบลึกๆทั้งบอลถ้วยในประเทศ และต่างประเทศ การให้แทมมี่ลงเล่นคนเดียวบอกเลยไม่น่าไหว นักเตะอาจจะกรอบเป็นข้าวเกรียบจนบาดเจ็บไปก่อนอาจจะทำให้เสียการใหญ่ได้ หาคนมาช่วยจะดีกว่า กองหน้าที่มีอยู่ไม่ไหว หากเราดูลิสต์รายชื่อของเชลซี นักเตะที่เล่นกองหน้าเป้าของเชลซีมีทั้งหมดสามคน แทมมี่ อับราฮัม ยืนหนึ่ง ตามมาด้วย มิชี่ บาตรซูอายี่ และ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ สองคนนี้ มิชี่ ไม่ได้อยู่ในฟอร์มที่ดีอีกต่อไปแล้ว ด้านชิรูด์ ก็เหมือนจะหมดไปกับทีม แทบไม่เหลือเค้าความเป็นเพชฌฆาตกรอบเขตโทษอีกเลย นั่นทำให้อาจจะต้องปล่อยออกไปคนหนึ่งแล้วมองหาคนอื่นมาแทน หรือ อาจจะปล่อยไปทั้งสองคนเลยก็ได้ หาคนมากดดันฟอร์ม นักเตะของเชลซีตอนนี้ แทมมี่ อับราฮัม เป็นนักเตะที่ใครๆก็จับตามองอย่างมากด้วยฟอร์มการเล่นที่เฉียบขาด ดุดัน รวดเร็ว แต่หากขาดการกดดันจากนักเตะสำรองเจ้าตัวก็อาจจะแผ่วปลายก็ได้ อย่าลืมว่าอายุเพียงแค่ยี่สิบกว่าๆเท่านั้นเอง ด้วยเหตุนี้ ตลาดเปิดรอบนี้ แฟรค์ อาจจะต้องดึงนักเตะกองหน้าตัวเป้ามากดดันหน่อย รอดูกันว่า ติโม แวร์เนอร์ ที่เล็งไว้จะมาเลยไหม

มาร์ติน โอเดการ์ด กลับมาแจ้งเกิดได้อีกครั้ง

ช่วงวัยรุ่นถือว่าเป็นช่วงเวลาสำคัญของการเป็นนักฟุตบอลเลยทีเดียว เพราะพรสวรรค์บวกกับวินัยในการฝึกซ้อมจะเปล่งประกายในตัวเองออกมาจนกลายเป็นนักเตะฟุตบอลอาชีพแบบเต็มตัว อีกหนึ่งคนที่น่าชื่นชมมากก็คือ มาร์ติน โอเดการ์ด วอนเดอร์คิดที่ตอนนี้กลับมาเส้นทางที่ควรจะเป็นได้สักที แจ้งเกิด แต่ไม่เกิด มาร์ติน โอเดนการ์ด เคยเป็นข่าวฮือฮาอยู่ช่วงหนึ่งเนื่องจากเค้าเป็นนักเตะวัยรุ่นที่มีพรสวรรค์สูงมาก จนทำให้เจ้าตัวได้รับโอกาสครั้งสำคัญด้วยการเซ็นสัญญาไปเล่นให้กับรีลมาดริด ทีมยักษ์ใหญ่ในสเปน แต่ว่าฝันดีเอาเค้าจริงกลับกลายเป็นฝันร้ายเพราะว่าเจ้าตัวกลับไม่ค่อยได้ลงเล่นเกมสำคัญของรีล มาดริดเลย เจ้าตัวต้องอยู่ได้แต่ในสนามซ้อม , เล่นทีมสำรอง และ ไปเล่นในเกมอุ่นเครื่องเท่านั้นเอง เรียกว่าเป็นความผิดพลาดมหันต์เลย ไม่เพียงเท่านั้น ตอนนั้นผู้จัดการทีมก็แนะนำให้เจ้าตัวลองย้ายออกไปในลักษณะการยืมตัวเพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ และกระดูกฟุตบอลให้แข็งแกร่งขึ้น แต่เจ้าตัวไม่ยอมไป ขอเล่นอยู่ตรงนี้ดีกว่า การเลือกออกไปผจญภัย เมื่อไม่ยอมย้ายออกไปก็ต้องเตรียมรับผลกระทบนั้นไปด้วย นั่นก็คือ ฝีเท้าการเล่นฟุตบอลที่ตกลงอย่างน่าใจหาย ส่วนหนึ่งเพราะไม่ได้สัมผัสกับเกมฟุตบอลระดับสูงทำให้ร่างกาย สัญชาติญาณ ไม่พัฒนาเท่าที่ควร จนสุดท้ายเจ้าตัวขอเลือกไปเล่นกับ เรอัล โซเซียดัด ทีมในลาลีก้า ซึ่งนั่นคือการตัดสินใจที่ถูกต้อง กลับมาแจ้งเกิดได้อีกครั้ง หลังจากได้ออกไปเล่นให้กับ เรอัล โซเซียดัด ต้องบอกว่าเหมือนปล่อยเสือเข้าป่า ปล่อยปลาลงน้ำ เพราะว่ามาร์ติน โอเดการ์ดเหมือนกลับมาแจ้งเกิดในวงการฟุตบอลอีกครั้ง เล่นดีมากทั้งยิง ทั้งเลี้ยง ทั้งจ่ายให้กับเพื่อนร่วมทีมทำประตูอย่างต่อเนื่อง จนตอนนี้เจ้าตัวพาต้นสังกัดขึ้นมาอยู่ในกลุ่มหัวตารางเพื่อทำอันดับไปเล่นฟุตบอลยุโรปแล้ว ล่าสุดก็ทั้งยิง ทั้งจ่ายให้ต้นสังกัดชนะ เออิบาร์ ไปสบาย 4-1 ผลงานแบบนี้เชื่อว่า รีล มาดริด จบฤดูกาลอาจจะดึงตัวกลับไปร่วมทีมอย่างแน่นอน เราขอทำนายล่วงหน้าได้เลย

“นิคลาส เบนท์เนอร์” ไม่อุทธรณ์โทษทำร้ายร่างกายคนขับแท็กซี่

“นิคลาส เบนท์เนอร์” นักฟุตบอลดาวยิงจากทีมชาติเดนมาร์ก ถูกศาลสั่งจำคุกพร้อมปรับเงินเพราะ ก่อเหตุทะเลาะวิวาทและทำร้ายร่างกายคนขับแท็กซี่หลังตัดสินใจไม่อุทธรณ์ โดยกองหน้าของโรเซนบอร์ก ถูกศาลสั่งจำคุก 50 วันพร้อมปรับเงินข้อหาทำร้ายร่างกายคนขับรถแท็กซี่เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา แข้งวัย 30 ปี อดีตกองหน้าชื่อดัง อาร์เซน่อล ได้ออกไปเที่ยวยามค่ำคืนใน กรุงโคเปนเฮเก้น ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้รับแจ้งว่า นักเตะจอมเก๋า วัย 30 ปี ไปมีเรื่องกับคนขับแท็กซี่ และทำร้ายร่างกายคู่กรณีจนกระดูกกรามหัก ก่อนจะโดนตำรวจตามรวบตัวได้ในเวลาต่อมา แม้เจ้าตัวจะอ้างว่าเขาเพียงแค่ป้องกันตัวเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เบนท์เนอร์ ตัดสินใจไม่อุทธรณ์คดีดังกล่าวแล้ว นั่นหมายความว่าเขาจะรับโทษจำคุก พร้อมกับถูกปรับเงินจำนวน 180 ปอนด์ (ราว 8,100 บาท) รวมทั้งต้องจ่ายเงินค่าทำขวัญให้กับคู่กรณีมากกว่า 1,000 ปอนด์ (ราว 45,000 บาท) ด้วย ทั้งนี้เรื่องราวทั้งหมดเริ่มจากการที่ เบนท์เนอร์ ปฏิเสธจ่ายเงินค่าโดยสารจำนวน 4.80 ปอนด์ (ราว 216 บาท) หลังออกท่องราตรีกับแฟนสาว จากนั้นก็ลงมือบรรเลงเพลงโหด ด้วยการชกที่ใบหน้าและเตะซ้ำคนขับแท็กซี่ โดยมีภาพวิดีโอเป็นหลักฐาน และทำให้กองหน้าเลือดโคนมยอมรับผิดแม้จะอ้างว่าถูกคู่กรณีขู่ขว้างขวดหรือกระป๋องใส่เขาและแฟนสาว เนื่องจากออกจากรถโดยไม่ได้จ่ายเงิน ขณะเดียวกันพนักงานขับแท็กซี่ ก็ถูกปรับเงิน 350 ปอนด์ (ราว 15,750 บาท) โทษฐานใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ และไม่คาดเข็มขัดนิรภัย

เจอร์เมน เดโฟ เผยชื่อสุดยอดนักเตะในใจตั้งแต่อยู่ในวงการค้าแข้ง

เจอร์เมน เดโฟ ดาวยิงมากประสบการณ์ของ บอร์นมัธ กล่าวว่านักเตะที่เขาเคยเผชิญหน้าด้วยและมีควมเก่งกล้าที่สุดคือ “พอล สโคลส์ ” แข้งในตำนานตำแหน่งมิดฟิลด์ของทีม ปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ศูนย์หน้าวัย 36 ปี กล่าวว่า “ในแง่มุมของกีฬาฟุตบอลแล้ว นักเตะที่ยอดเยี่ยมที่สุด เฉียบแหลมที่สุดและเทคนิคครองูกแพรวพราวคงจะหนีไม่พ้น “พอล สโคลส์” โดยตอนที่ผมอยู่เล่นให้กับ ท็อตแน่ม และ พอร์ทสมัธ ผมเองมองว่าในเวลาที่เราเล่นในระบบกองหน้า 2 คน เจอกับ แมนฯ ยูไนเต็ด มันจะเป็นงานยากเสมอ เพราะว่า สโคลส์ จะควบคุมเกมได้อยู่หมัดดีเสมอ” “คุณจะแทบไม่ได้ครองบอลเลย ลูกจ่ายของเขามันมหัศจรรย์ก็น่าเหลือเชื่อ ผมรู้สึกราวกับว่าเขาเป็นคนที่มาจากในอีกระดับหนึ่ง เขานำหน้าทุกคนในสนามไป 2 ก้าว เและขาทำประตูได้ด้วยเช่นกัน เป็นผู้เล่นที่ครบเครื่องที่สุด ยิ่งไปกว่านั้นแนวทางการเล่นของเขามันอัจฉริยะชัด ๆ ” เดโฟ กล่าวเพิ่ม สำหรับ “พอล สโคลส์ ” ปัจจุบันได้ผันตัวมาเป็นนักวิเคราะห์เกมทางโทรทัศน์ ซึ่งที่ผ่านมาก็มักจะให้ความเห็นอย่างชัดเจนตรงไปตรงมาถึงสโมสรเก่าของเขาอยู่เสมอ

แคมป์นักเตะทีมชาติ เวลาชักชวนการย้ายทีม

ช่วงการพักเบรคทีมชาติอย่างนี้ นอกจากจะเป็นเวลาพักของนักเตะที่ไม่ได้ติดทีมชาติแล้ว นักเตะที่ติดทีมชาตินอกจากจะได้โอกาสและความภาคภูมิใจที่ได้รับใช้ชาติแล้ว ส่วนหนึ่งที่เริ่มเห็นมีพฤติกรรมเหล่านี้กันบ้างแล้ว(จริงก็มีมานานแล้วแต่ไม่มีอะไรจับได้) นั่นก็คือ การชักชวนกันย้ายทีมมาเล่นด้วยกันตอนอยู่ทีมชาติ นักเตะมีเวลาร่วมกันแบบไม่มีกั๊ก เวลาที่นักเตะไปเข้าแคมป์ทีมชาตินั้น ส่วนใหญ่นักเตะทั้งหมดจะอยู่ด้วยกันตลอดเวลา(ไม่ได้กลับบ้าน) ซึ่งส่วนใหญ่นักเตะที่ติดทีมชาติเอาเข้าจริงหากไม่ใช่หน้าใหม่หรือขึ้นมาจากการดันเยาวชนจริงๆ ส่วนมากแล้วก็จะเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยหัดเล่นฟุตบอลด้วยกัน หรือติดทีมชาติมาตั้งแต่รุ่นเยาวชนนั่นเอง ทำให้ไม่แปลกที่บางคนอาจจะมีความสนิทกันเป็นอย่างมากกว่าเพื่อนร่วมทีมทั่วไป บอกเล่าแลกเปลี่ยนประสบการณ์ เมื่อเพื่อนซี้เก่าเจอกัน ก็ไม่แปลกที่จะต้องมีการบอกเล่าเรื่องราวแลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่ต่างคนต่างเจอกันมา ทั้งเรื่องส่วนตัว ผลงานในสนาม การใช้ชีวิต และเรื่องอื่นๆอีกเยอะแยะจิปาถะ ตามประสาเพื่อนคุยกันนั่นแหละ ทีนี้เมื่อเล่ากันไปมาแล้วก็คงจะมีบ้างที่จะถามว่า เล่นทีมนั้นเป็นอย่างไร ผู้จัดการทีมเป็นอย่างไร คู่แข่งเป็นอย่างไรกันบ้าง เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลเมื่อคุยกันพอได้สักหน่อย เชื่อว่าต้องมีการชักชวนมาเล่นด้วยกัน ชักชวนเพื่อนร่วมทีมมาเล่นด้วยกัน อย่างที่เป็นข่าวออกไปว่า อองตวน กรีซมันน์ พูดคุยกับป็อกบาว่าอยากมาเล่นด้วยกันที่ แมนยู  ซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดาที่จะเป็นแบบนั้น หากเราเล่นร่วมกับใครแล้วสนุก มีความสุขก็ไม่แปลกที่จะชวนมาเล่นด้วยกันอีกในนามสโมสร ก็หวังว่าลมปากของป็อกบาคราวนี้จะทำให้ อองตวน กรีซมันน์ เคลิ้มจนได้ย้ายมาแมนยูนะ เรื่องเงินไม่ต้องห่วง เดี๋ยวเอ็ดจัดให้ ถ้าได้จริงการที่ป็อกไปเล่นทีมชาติครั้งนี้ถือว่าทำตัวมีประโยชน์มากเลย จริงๆ